หากเป็นสิวธรรมดาหัวขาวหรือหัวดำ เมื่อหายจะไม่เป็นแผลเป็น แต่หากเป็นสิวที่มีการอักเสบชนิด nodular หรือเป็นหนอง pustular เมื่อหายอาจจะทำให้เกิดแผลเป็นซึ่งพบได้หลายลักษณะ
|
สาเหตุของการเกิดแผลเป็น
เมื่อผิวหนังเกิดการอักเสบ ร่างกายจะจัดการแก้ไขโดยเม็ดเลือดขาวจะมาเก็บพวกเชื้อโรคและเซลล์ที่ตายแล้ว ร่วมกับปฏิกิริยาของการอักเสบ ทำให้เกิกดพังผืดบริเวณแผล
ชนิดของแผลเป็นแบ่งออกเป็นสองชนิดคือ
- ชนิดที่เป็นแผลนูน เนื่องจากมีพังผืดปริมาณมากมาเกาะที่แผลทำให้เกิดลักษณธที่เรียกว่า keloid
- ชนิดแผลเป็นที่เป็นรอยบุ๋มลงซึ่งมีได้หลายลักษณะ
การป้องกัน
การป้องกันที่ดีที่สุดคือลดการอักเสบของสิว โดยการรักษาสิวอย่างถูกต้อง ไม่บีบหัวสิวเอง
การรักษา
จดุประสงค์ของการรักษาคือทำให้ผิวหนังกลับสู่ปกติให้มากที่สุด การรักษาสามารถทำได้้หลายวิธี
- การทำ Soft tissue fillers โดยการฉีดสาร Collagen หรือไขมัน fat ไปยังบริเวณแผลเป็นเพื่อให้ผิวนูนขึ้นมาทำให้แผลเป็นตื้น ซึ่งจะต้องฉีดเป็นระยะ
- การลอกหน้า โดยการใช้สารเคมีที่เป็นกรดทาใบหน้าและลอกเอาผิวส่วนบนออก
- การขัดหน้า Dermabrasion จะใช้ในกรณีมีมีแผลเป็นค่อนข้างมาก ว฿่งจะลอกเอาผิวส่วนบนออก ข้อเสียอาจจะทำให้ผิวคล้ำ
- Microdermabrasionเป็นการขัดผิวโดยการลอกส่วนหน้าของผิวโดยการเป่า crystals ไปที่ผิว และใช้เครื่องดูดทั้ง crystals และผิวออก ของดีคือผิวไม่ถูกลอก แต่แผลเป็นยังคงสังเกตเห็นแม้ว่าจะทำหลายครั้ง
- การใช้ laserเพื่อลอกเซลล์หนังกำพร้าออก และจะมีเซลล์ใหม่ขึ้นมาแทนที่ หลังจากทำหลายครั้งแผลเป็นจะตื้นลง
- การผ่าตัด โดยการผ่าตัดเอาแผลเป็นออก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น